โครงการ “วรรณคดีวิจักษ์ ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา”
ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
และเทศบาลตำบลต้นคราม อำเภอ บางปลาม้า สุพรรณบุรี
การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม เป็นพันธกิจหลักที่สำคัญของสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง ที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมกับการบูรณาการกับพันธกิจด้านการเรียนการสอน และการบริการทางวิชาการ โดยการดำเนินงานจะเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการสร้างปฏิสัมพันธ์ในระหว่างอาจารย์ผู้สอน และผู้เรียน การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่คำนึงถึงความแตกต่างเฉพาะตัวของนักศึกษาซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อความสนใจใฝ่รู้และศักยภาพในการแสวงหาความรู้ของนักศึกษา อีกทั้งการมีส่วนร่วมของชุมชนภายนอกสถาบัน ซึ่งสามารถจัดการงานทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสาน เผยแพร่วัฒนธรรมไทย และภูมิปัญญาท้องถิ่น
“วรรณคดีวิจักษ์” เป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ สามารถสะท้อนภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้นๆ โดยการสอดแทรกแนวคิด คติสอนใจและปรัชญาชีวิต ดังนั้นวรรณคดีวิจักษ์จึงมีคุณค่าทั้งในด้านประวัติศาสตร์ สังคม อารมณ์และคติสอนใจ รวมทั้งการตระหนักในคุณค่าของศิลปกรรมและวรรณกรรม ความนิยม ความซาบซึ้ง นอกจากวรรณคดีวิจักษ์จะเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของคนในชาติแล้ว วรรณคดีวิจักษ์ยังเป็นเครื่องเชิดชูอารยธรรมของชาติและยังมีคุณค่าเป็นหลักฐานทางโบราณคดี ทำให้คนสามารถรับรู้เรื่องราวในอดีต
คณะกรรมการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เห็นความสำคัญของวรรณคดีวิจักษ์ ซึ่งเปรียบเสมือนกระจกเงาสะท้อนภาพสังคมและวัฒนธรรม เรื่องราวความเป็นมาและค่านิยมของสังคมแต่ละสมัย จึงได้จัดโครงการ “วรรณคดีวิจักษ์ ขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา” ขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่นักศึกษาและชุมชนได้ทราบถึงการแจ้งความร้องทุกข์ การมีหมายเรียกไปเป็นพยานในศาล การเตรียมตัวก่อนไปศาล และการซักถามพยานในศาลในสมัยโบราณและปัจจุบัน อันเป็นการบูรณาการพันธกิจด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม กับการเรียนการสอนวิชากฎหมาย กระบวนวิชา LAW๓๐๑๑ กฎหมายลักษณะพยาน และกระบวนวิชา LAW๔๐๐๒ การว่าความและการจัดทำเอกสารทางกฎหมาย และการบูรณาการกับการบริการทางวิชาการแก่สังคม